สิวิชัย อุดมวรนันท์ (แว่น) : เวลาทำงานออกแบบ เราควร “ใช้เงินลูกค้าให้เหมือนใช้เงินตัวเอง” คือ ถ้าเราเริ่มคิดว่านี่เป็นเงินของเรา ตรงไหนที่คิดว่าแพง ตรงไหนไม่จำเป็น...เราจะรู้เอง!! เราต้องไม่พยายามยัดเยียดสิ่งที่เราชอบให้ลูกค้า แต่ควรหาสิ่งที่เขาชอบให้เจอ แล้วทำให้มันใช้งานได้ ให้เหมาะสมกับเขามากที่สุด สถาปนิกผู้คร่ำหวอดอยู่ในวงการออกแบบทั้งในไทยและต่างประเทศ มากว่า 25 ปี และเป็นผู้ก่อตั้งบริษัท AOMO (Architecture Of My Own) พูดถึงวิธีคิดในการทำงานของเขาให้เราฟัง
แนวทางการทำงานของ AOMO (เอโอเอ็มโอ) คือ เราเน้นทำงานออกแบบที่มันเรียบ “แต่ไม่เลี่ยน” ไม่น่าเบื่อ คือเราพยายามเน้นออกแบบที่รายละเอียดของอาคารมากกว่าจะไปเล่นที่ Form ของอาคาร...ความเรียบง่ายของตัวอาคารมันจะอยู่ได้นานกว่าตึกที่มันดูยุ่งๆ ครับ คือ เน้นงานที่เป็นเชิงลึกที่มากกว่าการรับรู้ด้วยการมองเห็น ไม่ใช่แค่สวยแล้วจบ แต่ไปเน้นที่รายละเอียดและความเข้ากันของวัสดุรวมถึงโครงสร้างต่างๆ ครับ นอกจากนี้ เวลาออกแบบ ผมจะมองถึงคำว่า “เหมาะสม” กับสถานที่นั้นๆ มากกว่าคำว่า “โดดเด่น” เช่น ถ้าจะออกแบบอาคารในทุ่งนา เราก็คงไม่ออกแบบอะไรที่ดูยุ่งๆ ไปอยู่กลางทุ่งนา แต่ควรจะทำให้มันเรียบๆ เหมาะสมกับบริบทของสถานที่นั้นๆ คือ ทำตัวให้กลมกลืน ไม่ไปแข่งหรือขัดแย้งมากเกินไปครับ
จากประสบการณ์ด้านออกแบบที่ทำมาหมดแล้วทุกอย่าง ถ้าถามถึงงานที่ยากที่สุด!! “ผมว่า คือ งานบ้านพักอาศัยครับ เพราะมันเรียกว่าเป็นงานที่สามารถทำลายอีโก้ของสถาปิกเยอะสุด (หัวเราะ) เพราะเราต้องออกแบบตามสไตล์และตามความต้องการของเจ้าของบ้าน แต่ผมก็ชอบนะ มันสนุกดี เพราะแต่ละคนไม่เหมือนกันเลย…และเวลาที่งานเสร็จมันก็เป็นความภูมิใจ บางทีเราก็ยอมทำงานโดยที่รู้ทั้งรู้ว่าขาดทุน แต่บังเอิญเห็นไซต์งานสวย เรามั่นใจว่าโปรเจคนี้ ต้องออกมาสวยแน่ๆ เราอยากทำ ค่าแบบยังยอมลด มันเหมือนกับเรา “ติดกับดักตัวเอง” (หัวเราะ) เพราะความสุขในการทำงาน คือ การได้เห็นงานเสร็จออกมาเหมือนแบบที่เราอยากให้เป็นครับ”
สำหรับงาน “บ้าน” บางทีเราต้องทำงานร่วมกับซินแส ซึ่งเมื่อก่อนผมคิดว่าสถาปนิกกับซินแสอาจไม่ค่อยถูกกัน (หัวเราะ) แต่หลังจากที่มีโอกาสได้ทำงานร่วมกับซินแสหลายครั้ง ก็พบว่าบางทีก็มีข้อดีนะ คือเราในฐานะสถาปนิก เราจะมองตามโจทย์ปัจจุบันของลูกค้า คืองบประมาณเท่านี้ ความต้องการแบบนี้ งั้นฟังก์ชั่นประมาณนี้น่าจะโอเค แต่ซินแสเขาจะมองไปอนาคต เขาเห็นว่าจริงๆ อนาคตก็ต้องมีลูก ต้องมีห้องนั่งเล่นใหญ่ขึ้น ต้องมีห้องทำงาน ซินแสบอกว่าต้องสร้างบ้านหลังนี้ให้อยู่ไปได้อีก 30 ปี โดยไม่ต้องสร้างใหม่ สรุปคือบ้านหลังนั้นเลยต้องเพิ่มพื้นที่จาก 400 ตร.ม. ไปเป็น 700 ตร.ม. ภายในเดือนเดียว (ยิ้ม)...แต่ก็นับว่าเป็นมุมมองที่น่าสนใจสำหรับสถาปนิกครับ ที่เวลาออกแบบเราอาจจะต้องคำนึงถึงรูปแบบการใช้ชีวิตในอนาคตของลูกค้าเผื่อไว้ด้วย... แต่ทั้งนี้ การที่เราจะแนะนำหรือปรับเปลี่ยนอะไรก็ตาม ผมว่าที่สำคัญ คือ ต้องรู้ว่าลูกค้าของเรามีกำลังที่จะทำอะไรขนาดนั้นหรือเปล่า
งานสถาปนิก มันสนุกแค่ 20% แรก คือ ตอนร่างแบบครับ หลังจากนั้นทุกข์ระทม (หัวเราะ) เพราะมันมีเรื่องที่ต้องเปลี่ยนแปลงแก้ไขตลอดเวลา ต้องมีทะเลาะกับใครต่อใครบ้าง เราต้องรับผิดชอบเพราะเราใช้เงินของลูกค้าสร้าง เราต้องบริหารจัดการเงินของเขาให้ดีที่สุดครับ
ชอบมุมนี้เพราะ มันเป็นมุมที่เอาหลายสไตล์มาผสมกัน มีเฟอร์นิเจอร์บางตัวที่ เอารายละเอียดดีไซน์ของเก่ามาทำให้เป็นของใหม่ได้ เช่น โต๊ะ คอนโซล ตู้ลิ้นชัก คือมันไม่ได้ใหม่มาก มันมีคนเคยทำแล้วแต่อันนี้ฉีกไปเลือกใช้วัสดุผ้ากับไม้ มันให้ความรู้สึกเหมือนซาฟารี พอเอามาใส่ Detail แบบนี้แล้วมันดูโมเดิร์นขึ้น
ชอบมุมนี้เพราะ Scheme สีห้องนี้ดูสบายตา และมันมีรายละเอียดดีไซน์ที่ดูเหมือนเรียบ แต่ไม่เลี่ยน ดูรวมๆ แล้ว มันให้ความรู้สึกง่ายๆ สบายๆ มันจะดูอบอุ่นชวนผ่อนคลาย