ลลิดา ลีละยูวะ(แหวว) : “ความสำเร็จ...มันไม่มีทางลัด ถ้าคุณอยากประสบความสำเร็จ คุณต้องตั้งใจต้องสุด ต้องทำมันจริงๆ” นี่คือ Motto ในการใช้ชีวิตของเซเลบริตี้อินทิเรียร์สาวมากฝีมือ ผู้ก่อตั้ง Lalida & Co
ลลิดา แอนด์ โค เป็นบริษัทอินทีเรียร์รับออกแบบทั้งงานสถาปัตยกรรมภายใน และ Turnkey Solution ให้กับลูกค้า คือดูแลออกแบบและทำในเรื่องการก่อสร้าง รวมถึงการจัดของตกแต่งต่างๆ ให้ทั้งหมด ที่ผ่านมามีผลงานออกแบบทั้งโรงแรมและบ้านระดับไฮเอนด์ ให้กับคนดังจากหลากหลายวงการ บริษัทแห่งนี้ มีคาแรคเตอร์ในการออกแบบตกแต่งที่เป็นเอกลักษณ์ในแบบฉบับของตัวเอง เรียกว่า Art of Eclecticism คือ การนำศิลปะจากยุคต่างๆ มาดัดแปลงให้ร่วมสมัยและสามารถอยู่ได้ในยุคปัจจุบัน เช่น บางครั้งลูกค้าบางคนบอกว่าชอบโมเดิร์น แต่บ้านที่โมเดิร์นมากไป อาจจะไม่ตอบโจทย์การใช้งาน เราก็ต้องมีบางอย่างเข้ามาช่วยมิกซ์ หรืออย่างความคลาสสิค พอเอามาอยู่ในยุคปัจจุบัน บางท่านก็อาจจะรู้สึกว่ามันเยอะไปมันก็อาจจะต้องมีสีสันหรือความเป็นเอเชียนเข้าไปปรุงแต่งหน่อย
นอกจากเรื่องความสวยงามแล้ว การเลือกใช้วัสดุในงานออกแบบ ก็เป็นสิ่งที่คุณแหววให้ความสำคัญไม่แพ้กัน เพราะปัจจุบัน material เปลี่ยนไปเยอะมาก มีความหลากหลายและน่าใช้ขึ้นมาก ซึ่งจุดที่ต้องให้ความสำคัญเกี่ยวกับวัสดุ คือ เรื่องฟังก์ชั่น เช่น ในห้องน้ำ เมื่อก่อนอาจนึกถึงแต่กระเบื้องหรือหิน แต่ถ้าเราอยากใช้ไม้ ตอนนี้ก็มีกระเบื้องลายไม้ให้เราได้เลือกใช้หลายแบบอันนี้มันก็ตอบได้ทั้งความสวยงามและฟังก์ชั่น
“ส่วนตัวแหววชอบอะไรที่ดูแลรักษาง่าย คืองานเราไม่ได้สวยแค่วันแรกที่ส่งลูกค้า ถ้าวันนั้นทุกอย่างดูสวย perfect ไปหมด แต่พอเวลาผ่านไปลูกค้าต้องมาถามว่า เขาต้องดูแลมันอย่างไร เขาต้องดูแลมันอย่างนี้ตลอดไปเหรอ อันนี้คงไม่ใช่ มันเป็นหน้าที่ของเราที่ต้องคิดตรงนี้เผื่อแทนลูกค้าด้วย การเลือกใช้วัสดุจึงเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งเราก็ต้องเลือกให้เหมาะกับพฤติกรรมการใช้งานของลูกค้า เช่น ลูกค้าบางคนเป็นคนสะอาดมาก ชอบซักผ้าม่านทุกเดือน (โดยทั่วไปซักทุก 6 เดือน) เราก็ต้องหาวัสดุที่ทนหน่อย ให้เหมาะเขา หรือบางคนเป็นภูมิแพ้และไม่ชอบวัสดุหนัง ซึ่งถ้าใช้ผ้ามันก็จะมีฝุ่น ก็ไม่เหมาะกับเขาอีก เราก็ต้องแนะนำว่า หนังมีหลายอย่างหลายแบบให้เลือก ไม่ได้มีหนังประเภทเดียวอย่างที่เขาเข้าใจ เราก็ต้องรู้จะมิกซ์วัสดุอย่างอื่นเข้าไป เพื่อให้มันดู soft ขึ้น ให้เขารู้สึกสบายขึ้น”
“แหวอยู่วงการนี้มา เกือบ 20 ปี ยังมีความสุขทุกๆ วันที่ได้ตื่นขึ้นมาทำงาน งานนี้มันตั้งต้นมาจากความชอบ มันเป็นแพสชั่น งานออกแบบตกแต่งมันมีเสน่ห์ที่ความไม่จำเจ ทุกครั้งที่เริ่มโปรเจคใหม่ เราจะเจอกับโจทย์ใหม่ๆ ลูกค้าใหม่ๆ เนื้องานก็เปลี่ยนไปตลอด มันเป็นความท้าทาย แต่สุดท้ายแล้ว คือ ทำยังไงก็ได้ให้ลูกค้ารู้สึกมีความสุข และทีมงานของเราก็มีความสุขด้วย เพราะในงานออกแบบเราทำงานเป็นทีม ลูกค้าก็มีส่วนในงานออกแบบด้วย ถ้าทั้งวงจรของการทำงานมันเกิด energy ที่ดีแล้ว มันก็จะกระจายไปทั่ว ทำให้กระบวนการทำงานต่างๆ ดำเนินไปได้ด้วยดี”
-
-