กอบชัย ลิมปนเทวินทร์

ABOUT HIM

กอบชัย ลิมปนเทวินทร์ (กอล์ฟ) : “แนวคิดในการให้บริการของเราคือ Good - Cheap - Fast สามอย่างนี้....เราให้คุณเลือกได้ 2 อย่าง และต้องเสีย 1 อย่าง เพราะมันเป็นสัจธรรมชีวิตเนอะ ไม่มีใครได้ทุกอย่าง มันต้องได้อย่างเสียอย่าง (หัวเราะ) คือ ถ้า Good+Cheap ก็ไม่ Fast ถ้า Good+Fast ก็ไม่ Cheap และถ้า Cheap+Fast ก็ไม่ Good…คือเวลาเราทำงานกับลูกค้า เราจะพูดความจริงนะครับ พูดกันตรงๆ เลยว่าสิ่งที่เขาต้องการน่ะ มันได้หรือไม่ได้ ความเป็นจริงมันเป็นยังไง เราจะชี้แจงและสุดท้ายคือคุณจะเลือกอะไร” สัปดาห์นี้มาพูดคุยกับ Design Director & Co-Founder บริษัท Collective Studio

ที่ Collective Studio ส่วนใหญ่ลูกค้าที่เข้ามาหาเรา จะเป็นคนที่มองหาคอนเซ็ปต์และเน้น Story ครับ คือเป็นลูกค้าสไตล์เรา คำว่า “สไตล์เรา” หมายถึง ถ้าเป็นบ้านก็จะไม่ใช่บ้านโมเดิร์นเรียบหรูอะไรทำนองนั้น แต่จะเป็นบ้านที่มีรายละเอียดในการตกแต่งเยอะ คือเป็นลูกค้าที่เขาชอบงานสไตล์เรา แล้วเขาก็เข้ามาหาและอยากให้เราออกแบบให้ครับ

“สำหรับงานออกแบบ ผมมองว่าเราต้องพยายามทำตัวให้หลากหลาย เห็นโลกกว้าง แล้วอย่าไปยึดติดกับอะไรชัดเจน แต่ต้องรู้จักเลือกที่จะเอามาใช้ เหมือนกับชื่อของบริษัทนี่แหละครับ คือ Collective ซึ่งมันสะท้อนถึงการที่เราเลือกสิ่งต่างๆ มารวมกันให้มันเป็นงานชิ้นนึงขึ้นมา เราไม่ได้เริ่มจากการคิดว่าจะตกแต่งสไตล์อะไรหรือยึดติดว่าเราต้องออกแบบตกแต่งสไตล์อะไรโดยเฉพาะครับ”

จริงๆ เราก็ทำงานมาหลากหลายครับ ไม่ว่าจะบ้าน ร้านอาหาร ร้านกาแฟ สปา โรงแรม เวลาทำงานออกแบบ สิ่งนึงที่ผมจะบอกทีมเสมอ คือ เงินที่ลูกค้าเอามาสร้างอะไรสักอย่างมันเป็นสิ่งที่มีความหมาย มีคุณค่ากับเขา เราไม่รู้ว่าเขาหามันมายังไง อาจไปกู้มาหรือเก็บมา เราควรใช้ให้มันคุ้มค่าที่สุด ไม่ควรทำอะไรไปโดยคิดว่า มันไม่ใช่เงินเรา จะทำอะไรก็ได้ คือคนทำบ้านอ่ะ...เขาอาจเก็บเงินมาทั้งชีวิต แล้วมาให้เราออกแบบ เราในฐานะดีไซน์เนอร์ก็ต้องรับรู้สึกความรู้สึกตรงนี้ไว้ด้วย ไม่งั้นเราจะทำงานโดยขาดความระมัดระวัง  

ความสนุกของงานออกแบบตกแต่งบ้านเนี่ย มันคือ “ความปวดหัว” ครับ (หัวเราะ) เพราะมันเป็นงานที่มีรายละเอียดเยอะ แต่จริงๆ ผมมองว่าความสนุกคือ มันเหมือนกับเราได้ทำบ้านตัวเองในหลากหลายสไตล์ วันนี้ทำคลาสสิค วันหน้าได้ทำอีกอย่าง แม้จะทำแล้วไม่ได้อยู่ แต่มันก็สนุกดี เหมือนได้สนองความต้องการของตัวเอง (หัวเราะ)

“ส่วนใหญ่คนทั่วไปอาจไม่ค่อยกล้าเข้าหาอินทีเรียร์ดีไซน์เนอร์ เพราะกลัวจะมีค่าใช้จ่ายสูง ผมมองว่าตรงนี้มันเป็นเรื่องของการรับรู้ และอาจจะสร้างกำแพงขึ้นมาเอง เพราะจริงๆ แล้วทุกอย่างมันคุยกันได้ครับ คือการคุยเบื้องต้นมันไม่มีคาใช้จ่าย สิ่งที่เราพยายามทำมาตลอดคือ เราเป็นบริษัทที่ง่ายๆ กันเอง ไม่ต้องเกร็งหรือกังวลอะไร คือเข้ามาคุยกันได้เลยครับ เราทำตัวแบบบ้านๆ ติดดินเพราะอยากให้คนรู้สึกว่า มันไม่ใช่เรื่องซีเรียรสอะไรเวลาที่ต้องมาติดต่อดีไซน์เนอร์ให้ออกแบบอะไรสักอย่าง ถ้ามาถามเรา เราแนะนำหมดครับ ซึ่งบางทีสิ่งที่เขาต้องการมันอาจไม่ต้องทำอะไรมากมายขนาดนั้นก็ได้ เราให้คำแนะนำกับทุกคนได้โดยที่ไม่ต้องจ้างเรา”