คุณหัสมา จันทรัตนา (ฟ้าใส) : ถ้าคุณรู้จัก Big Mountain เทศกาลดนตรีเจ๋งๆ ที่คนเสพดนตรีต้องไป สัปดาห์นี้ก็ขอชวนคุณมารู้จักกับ Supermachine Studio บริษัทที่ดูแลการออกแบบสถานที่เพื่อสร้างประสบการณ์ดีๆ ให้กับคอดนตรีที่ไปร่วมงาน และยังเป็นบริษัทออกแบบด้านสถาปัตยกรรมและตกแต่งภายใน ที่พร้อมจะสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้การใช้พื้นที่ของคุณอีกด้วย
โปรเจคเทศกาลดนตรีนี้ Supermachine ทำต่อเนื่องมา 9 ปีแล้วค่ะ เป็นงานสำคัญที่เปิดโอกาสให้เราได้ทดลองสิ่งใหม่ๆ กับพื้นที่ขนาดใหญ่อยู่เสมอ ซึ่งด้วยสเกลของงานและพื้นที่ที่ใหญ่มาก ทำให้งานออกแบบของเราต้องสามารถสร้าง Impact ให้คนจดจำและเป็นอะไรที่สามารถสื่อสารให้คนหมู่มากเข้าใจได้ง่าย ถือเป็นโปรเจคที่ทั้งสนุกและท้าทายมากสำหรับเรา สิ่งที่เราให้ความสำคัญมากในงานออกแบบคือเรื่องของ ประสบการณ์การใช้พื้่นที่ค่ะ คือเราจะพยายามคิดว่าจะทำยังไงให้คนที่เข้ามาได้ Extra Experience ได้รับประสบการณ์ใหม่ที่เพิ่มเติมและต่างไปจากเดิม
ซึ่งจริงๆ งานที่บริษัทฯ ทำก็ไม่ได้มีแค่งานอีเว้นท์นะคะ แต่เรายังรับออกแบบสถาปัตยกรรมและงานออกแบบตกแต่งภายในด้วยค่ะ ซึ่งในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา จะมีงานประเภท Learning Center และ Co-working space เข้ามาค่อนข้างเยอะค่ะ เพราะเป็นธุรกิจที่ผุดขึ้นมากในช่วงนี้ ซึ่งเป็นยุคที่รูปแบบการทำงานของคนเปลี่ยนไป หลายๆ ที่ก็มีการออกแบบตกแต่งสถานทำงานให้ดูไม่เป็นทางการมาก เน้นบรรยากาศที่เอื้อต่อการทำงานที่สอดประสานกันของคนในส่วนต่างๆ ขององค์ก่อน และที่สำคัญคือต้องเป็นบรรยากาศช่วยส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ในการทำงานด้วยค่ะ
เวลาออกแบบตกแต่งออฟฟิศ เราจะพยายามหาวิธีใหม่ๆในการออกแบบ Space เพื่อให้คนที่มาใช้พื้นที่เข้ามาทำงานแล้วไม่เบื่อ อยากให้พื้นที่สามารถทำให้คนอารมณ์ดีขึ้น ส่งเสริมให้คนทำงานได้มีประสิทธิภาพขึ้น ตัวอย่างโปรเจคล่าสุดคือ SCB Academy เราออกแบบให้เป็นพื้นที่เปิดขนาดใหญ่ ที่เต็มไปด้วยวัตถุสิ่งของหลายๆอย่าง ที่ทำหน้าที่ส่งเสริมการสื่อสารและทำงานร่วมกันของคนในพื้นที่ในรูปแบบต่างๆ เช่น เวทีไวท์บอร์ดขนาดยักษ์ ที่คนสามารถปีนบันไดขึ้นไปเขียนได้ทั้งบนพื้นและผนังทั้ง3ด้าน, แม่เหล็กรูปทรงหกเหลี่ยมมีลวดลายกราฟฟิคต่างๆ กระจายอยู่ตามผนังเหล็กรอบพื้นที่ สำหรับให้คนมาจัดเรียงเป็นรูปทรง หรือข้อความต่างๆได้ตามใจชอบ, แปรงลบกระดานที่มีบันได สามารถขึ้นไปเขียนบนที่สูงได้, และยังมีฝ้าเขาวงกต เสาปีนผาจำลองกระสอบทราย แท่นใส่ปากกา แป้นบาส และอื่นๆ อีกมากมาย ที่ออกแบบมาเพื่อให้คนเข้ามามีกิจกรรม มีการสื่อสารในรูปแบบต่างๆ ร่วมกันในพื้นมากขึ้น แทนที่จะเป็นแค่โต๊ะทำงานและกั้นห้องประชุมแบบทั่วไป
ฟ้าใสมองว่า “อินทีเรียร์” มันคือเรื่องของ “มนุษย์กับการใช้งานพื้นที่” ซึ่งในฐานะดีไซน์เนอร์เราก็มีหน้าที่ออกแบบเพื่อสร้างสิ่งแวดล้อมให้ User มีประสบการณ์ที่ดีกับพื้นที่ของเขา ถ้าเป็นบ้าน คือ ทำยังไงให้เขาอยู่สบาย ถ้าเป็นออฟฟิศ คือ ทำยังไงให้ขาทำงานแล้วมีประสิทธิภาพมากที่สุดและไม่เครียด นอกจากนี้ อีกสิ่งที่มองว่าสำคัญสำหรับการเป็นดีไซน์เนอร์ คือ เราต้อง “ช่วยกันดูแลโลก” ด้วยค่ะ เพราะจริงๆ แล้วดีไซน์เนอร์ก็เป็นคนสร้างขยะคนนึง คือ เราสร้างสิ่งใหม่ ดีไซน์ออกแบบอะไรต่างๆ ขึ้นมาเพื่อให้เกิดการใช้งาน แต่ขณะเดียวกันเวลาที่เราสร้าง เราก็เพิ่มขยะเข้าไปด้วย เลยรู้สึกว่าในทุกงานดีไซน์ของเราควรให้ความสำคัญกับ Sustainability ในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบโดยเอาวัสดุมา Reuse หรือ Recycle ถ้าเราสามารถทำให้งานดีไซน์ของเรา เป็นดีไซน์ที่คิดเผื่อโลกด้วย มันจะเจ๋งมากค่ะ
FARSAI
ชอบมุมนี้ ที่สีสันและลวดลาย คือ มันแสดงถึงคาแรคเตอร์ความเป็นตัวเองของคนที่อยู่ห้องนี้ที่น่าจะเป็นคนสนุกสนานร่าเริง แต่ก็ยังมีการใช้วัสดุไม้ ซึ่งมันให้ความรู้สึกของความผ่อนคลายด้วย
ชอบมุมนี้ เพราะมันมีความเป็นเด็กอยู่ค่ะ ถ้าตอนเด็กๆ ได้อยู่ห้องนี้คงมีความสุขมาก มีเต็นท์ให้เข้าไปเล่น เหมือนมีโลกส่วนตัว แล้วก็ส่วนชั้นเก็บของ ชอบDetail ของฝาปิด คือรู้สึกว่าชั้นเก็บของควรจะมีฝาปิด เพื่อป้องกันเรื่องฝุ่นและเพื่อจะได้ดูแลรักษาง่าย ซึ่งฝาปิดตัวนี้มันมีดีไซน์ที่มันทำให้ห้องดูสวยงามแล้วก็มีลูกเล่นมากขึ้นด้วย ที่ไม่ใช่แค่ปิดธรรมดา ไม่ใช่ตู้เก็บของธรรมดา แต่เป็นตู้เก็บของที่สวย แล้วก็ด้วยความที่มีสีแดงกับสีขาวมันจัดองค์ประกอบในห้องได้หลากหลายค่ะ ง
