สัปดาห์นี้พูดคุยกับสถาปนิกสาว ดีกรี 2 ปริญญาโท ด้าน Computer Generated Image for Communication และ Scenography จากประเทศฝรั่งเศส อยู่ในวงการออกแบบมากว่า 15 ปี มีประสบการณ์ทำงานในหลายลักษณะ ทั้งออกแบบฉากโรงละคร ธุรกิจบริการ ที่พักอาศัย และพื้นที่เชิงพาณิชย์ ดูแลลูกค้าตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงระดับหรูหราขนาดใหญ่ แต่เมื่อถามถึงประเภทงานออกแบบที่เธอชื่นชอบและมีความสุขที่ได้ทำ คำตอบคือ “บ้าน” ที่ซึ่งเต็มไปด้วย “ความรู้สึกคุ้นเคย” รวมถึงการได้พบปะพูดคุยกับลูกค้าหลากหลายรูปแบบก็เป็นประสบการณ์ที่สนุกและน่าสนใจ ไปพูดคุยต่อกับ คุณปาน - ปานดวงใจ รุจจนเวท จาก ANONYM สตูดิโอที่พร้อมจะออกแบบบ้านของคุณให้สวยด้วยดีไซน์ที่ “โดดเด่นและอยู่สบาย”
ANONYM ก่อตั้งโดยคุณปานและคุณบอย - พงศ์ภัทร เอื้อสังคมเศรษฐ์ เปิดมาได้ประมาณ 3 ปี “งานหลักๆ ของเราจะเป็น “บ้าน” ค่ะ...ปานชอบออกแบบบ้านเพราะเป็นงานที่มีความท้าทายในแง่ที่ว่า“บ้าน” เป็นเรื่องของความชอบส่วนบุคคลที่ไม่สามารถวัดได้ด้วยศาสตร์ต่างๆ อีกทั้ง “บ้าน” ยังเป็นงานละเอียดอ่อน เราต้องคุยกับลูกค้าเพื่อจะสื่อสารให้เขารู้และเข้าใจว่าเขากำลังจ่ายเงินตอนนี้เพื่อ “สิ่งที่จะเป็นในอนาคต” ปกติเราจะทำงานเป็นทีม คือ ทำงานร่วมกันระหว่างเราและลูกค้า โดยเราจะคุยกัน ปรึกษากัน บางทีลูกค้าก็มีไอเดียของเขา ทำให้บ้านทุกหลังมีความแตกต่างที่เฉพาะตัวค่ะ โปรเจคนึงกว่าจะเสร็จก็ใช้เวลา 2-3 ปี ซึ่งทำให้เราได้พูดคุยและทำงานร่วมกับลูกค้าจนกลายเป็นเพื่อนกันไปเลยค่ะ และที่ผ่านมาลูกค้าของเราน่ารักมาก ทุกคนที่เข้ามาหาเรา เขามีความตั้งใจอยากได้บ้านดีๆ เขาอยากปลูกบ้านให้คนที่เขารัก...เป็นคุณพ่อคุณแม่ที่อยากปลูกให้ลูก และบางทีก็เป็นลูกที่อยากปลูกให้คุณพ่อคุณแม่ เพราะเขาเห็นพ่อแม่ทำงานหนักมาตลอดชีวิตแล้ว เราฟังแล้วก็รู้สึกว่า โห! ทำไมน่ารักขนาดนี้ เขารักกันอ่ะ!! มันเป็นความรู้สึกดีๆ ที่เราสัมผัสได้”
เวลาทำงานออกแบบ เราไม่ได้คิดว่า...แค่สร้างบ้านให้เสร็จ! แต่เราให้ความสำคัญกับการสร้างความสมดุลระหว่าง พื้นที่ คน และบริบทด้วยค่ะ คือมองเรื่อง “ความสัมพันธ์” เป็นหลัก เพราะมันเป็น “ต้นกำเนิดของสังคม” ดังนั้นเมื่อเราทำงานกับคนหลายฝ่าย ทั้งเจ้าของบ้าน ผู้รับเหมา ซัพพลายเออร์ เพื่อนบ้าน คนในพื้นที่ และคนอื่นๆ อีกมากมายที่มาช่วยเราทำงาน ล้วนเป็นสิ่งสำคัญที่เราพยายามจะบริหารจัดการทุกความสัมพันธ์นี้ให้เป็นไปอย่างราบรื่น และในส่วนของ “บ้าน” ที่ออกแบบ เราก็จะพยายามทำให้บ้านเข้าไปอยู่ในพื้นที่ได้โดยที่ไม่โดดไปจากสภาพแวดล้อม เพราะเราอยากให้เกิดความกลมกลืนมากกว่าที่จะทำให้ “บ้าน” เป็นอะไรที่ดูแปลกแยกค่ะ
สิ่งที่ให้ความสำคัญมากในการออกแบบบ้าน คือ ต้องตอบสนองความต้องการเจ้าของบ้านให้มากที่สุด มีสองอย่างนะคะ “สิ่งที่เขาจำเป็นต้องมี” กับ “สิ่งที่เขาต้องการจะมี” ซึ่งเราก็ต้องพยายามขมวดสองสิ่งนี้เข้าไปในงานดีไซน์ให้ได้ ต้องหาให้เจอว่าเจ้าของบ้านต้องการอะไรจากบ้านหลังนี้ แล้วเราจะทำยังไงให้เขาอยู่บ้านแล้วมีความสุข
ส่วนมุมมองในการออกแบบบ้านให้ “อยู่สบาย” หลักๆ คือ เรื่องแสงและอากาศค่ะ เช่น การวางทิศทางของช่องเปิด ต้องเปิดยังไงให้อากาศผ่านและถ่ายเท เรื่องเครื่องปรับอากาศ จะใช้คู่กันไปยังไง อย่างบ้านเราทิศทางลม คือ "ตะวันออกเฉียงเหนือและตะวันตกเฉียงใต้" ถ้าเป็นหน้าหนาวทางเหนือจะได้ลมมาจากประเทศจีน ถ้าเป็นทางใต้จะได้ลมมาจากทะเลฝั่งอันดามัน ฉะนั้นเวลาเปิดบ้าน การวางทิศบ้าน ควรเปิดช่องที่ให้ลมผ่านทางทิศเหนือและใต้ได้ง่ายๆ คือ ให้มันมีหน้าต่างประตู คือให้มีทางลมเข้าและลมออก ส่วนทิศที่ควรปิด คือทิศที่มีแสงแดดและความร้อน คือ ทิศตะวันตกกับทิศใต้ ควรเป็นผนังทึบหรือมีชายคา หรือเป็น Double Skin เพื่อเพิ่มช่องลมระหว่างผนังทั้งสองชั้น จะทำให้บ้านเย็นขึ้นค่ะ คือพยายามทำให้มี “ช่องว่าง” เช่น ถ้าเราเห็นมีหลังคาสูง แล้วมีช่องว่างใต้หลังคา นั่นก็คือ Air Gap เหมือนกัน ที่ช่วยป้องกันความร้อนจากด้านบน
อีกสิ่งที่เรามองว่า “บ้านควรจะมี” คือ Inner Court หรือสวนภายในบ้าน เพราะการเพิ่มพื้นที่สีเขียวหรือพื้นที่ว่างในบ้าน ทำให้แสงเข้ามาได้และช่วยเรื่องระบายอากาศด้วย จะทำให้บ้านน่าอยู่ขึ้นค่ะ ซึ่งทำได้หลายรูปแบบ เช่น คว้านพื้นแล้วยกขึ้นทำเป็น Elevated Planter ไปเลยก็ได้ แต่บางทีเจ้าของบ้านอาจคิดว่าไม่จำเป็น เพราะเขาอาจจะอยากได้ที่เก็บของหรือห้องเยอะๆ มากกว่า แต่เราคิดว่า Inner Court เป็นสิ่งที่เหมาะกับสภาพแวดล้อมและอากาศที่เป็นทรอปิคอลแบบบ้านเราค่ะ
งานออกแบบตกแต่งบ้านอาจมีปัญหาจุกจิกหลายอย่าง เราในฐานะดีไซน์เนอร์ต้องพยายามเข้าใจ เพราะบางทีลูกค้าอาจไม่ได้บอกเราทั้งหมด ต้องคุย ต้องถาม “ทำงานกับคนต้องใจเย็นๆ” มันเป็นเรื่องธรรมดาที่เราคุยแล้วมันเห็นไม่ตรงกัน แต่ถ้าสำหรับงานบ้าน ต้องบอกเลยว่ามัน “ไม่ใช่บ้านของเรา” แต่เป็นบ้านที่เราออกแบบให้เขา ซึ่งเขาจะอยู่บ้านหลังนี้ไปอีก 10 -30 ปี เราไม่ได้ไปอยู่กับเขาทุกวัน เขาต่างหากที่ต้องแฮปปี้กับบ้าน “ดีไซน์เนอร์ไม่ควรเอาความต้องการของตัวเองไปอยู่ในบ้านหลังนั้น” เราเอาความรู้ความสามารถของเราไปช่วย ฉะนั้นเราต้องมีพื้นฐานตรงนี้ก่อนว่า ไม่ใช่บ้านเรา แต่เป็นบ้านเขา...ถ้าตั้งต้นแค่นี้ก็จบแล้ว
ส่วนตัวปานชอบครัวที่มีไอส์แลนด์ค่ะ เพราะเวลาเราทำกับข้าวจะได้ไม่ต้องหันหน้าเข้ากำแพง แต่เราสามารถหันหน้าออกมาข้างนอกได้ ทำให้เห็นคนอื่นด้วย คือ มันดีกว่าในแง่ของความสัมพันธ์ของคนในครอบครัวหรือเพื่อนๆ ค่ะ แถมเป็นพื้นที่ที่ใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง ทั้งเตรียม-ทำ-นั่งทาน ได้ในพื้นที่เดียว ทำให้บรรยากาศครัวดูสบายๆ เป็นกันเองดีค่ะ
ชอบมุมนี้ เพราะดีไซน์ไอส์แลนด์ครัวมีความพิเศษค่ะ คือมีขอบสูงเพื่อกันน้ำด้วย และมีการมิกซ์พื้นที่ทำอาหารเข้ากับ Dining Area ซึ่งทำให้เราสามารถใช้ตรงนี้เป็นพื้นที่ส่วนกลางในบ้านได้ เพราะบรรยากาศมันดูไม่เหมือนครัวซะทีเดียว เป็น Lay out ห้องครัวที่น่าจะถูกใจคนชอบเข้าครัว แล้วมีเพื่อนมาที่บ้านมาปาร์ตี้ สังสรรค์ ทำกับข้าวไปคุยกันไป ดูน่าสนุกดีค่ะ